Search
Close this search box.

|

Search
Close this search box.

|

MES Solution

ระบบการจัดการการผลิต (Manufacturing Execution System – MES) เป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการติดตามและควบคุมกระบวนการผลิต โดยทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างการวางแผนขององค์กรและการปฏิบัติงานในพื้นที่การผลิต ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อการตัดสินใจ MES ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และเสริมสร้างผลผลิตและความสามารถในการทำกำไรโดยรวม

What's MES?

ระบบการจัดการการผลิต (Manufacturing Execution System – MES) เป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อติดตาม, ตรวจสอบ, เอกสาร, และควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่การใช้วัตถุดิบไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป MES มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการผลิตโดยการให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์และการควบคุมเหนือหลายองค์ประกอบของกระบวนการผลิต รวมถึงการป้อนข้อมูล, บุคลากร, เครื่องจักร, และบริการสนับสนุน

Manufacturing Execution System (MES) เป็นระบบสารสนเทศที่ใช้ในสภาพแวดล้อมการผลิตเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงจากวัตถุดิบไปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจที่ฉลาด (SMART business decisions)

Key Functions of MES

  1. การติดตามแบบเรียลไทม์ (Real-Time Monitoring): MES จะจับและวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องจักร, เซ็นเซอร์, และผู้ปฏิบัติงาน ทำให้ผู้ผลิตเข้าใจสภาวะการผลิตปัจจุบันและปรับปรุงกระบวนการตามความเหมาะสม
  1. การติดตามการผลิต (Production Tracking): ระบบจะติดตามการเปลี่ยนแปลงจากวัตถุดิบไปเป็นสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งให้มุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับกิจกรรมการผลิตและตรวจสอบให้แน่ใจว่าการดำเนินงานสอดคล้องกับตารางเวลาที่วางแผนไว้

     

  1. การควบคุมคุณภาพ (Quality Control): MES จะบังคับใช้ขั้นตอนการควบคุมคุณภาพและตรวจสอบตัวชี้วัดเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าตรงตามมาตรฐานที่ต้องการ ข้อมูลย้อนกลับที่รวดเร็วช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วเพื่อลดข้อบกพร่องและขยะ
  1. การจัดการทรัพยากร (Resource Management): ระบบช่วยในการจัดการทรัพยากรการผลิต เช่น วัสดุ, แรงงาน, และอุปกรณ์ เพื่อให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพและลดเวลาหยุดทำงาน

     

  1. การเชื่อมต่อกับระบบ ERP (Integration with ERP Systems) : MES มักจะรวมเข้ากับระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning – ERP) ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลของข้อมูลระหว่างแผนกต่าง ๆ และทำให้การดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับกิจกรรมการผลิต

Core Function Area of MES

Core Modules of a Manufacturing Execution System (MES)

ระบบการจัดการการผลิต (Manufacturing Execution System – MES) มักจะประกอบด้วยโมดูลหลักดังต่อไปนี้เพื่อการจัดการการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ:

1. การวางแผนและกำหนดตารางการผลิต (Production Planning & Scheduling)
  • มองเห็นแผนการผลิตแบบเรียลไทม์และปรับปรุงความสามารถในการผลิตและทรัพยากร
  • แชร์ตารางเวลากับพนักงานในพื้นที่การผลิตทันที
  • สร้างคำสั่งการผลิตด้วยตนเองหรือดาวน์โหลดจาก ERP อัตโนมัติ
  • ติดตามการส่งมอบเครื่องมือ, การเปลี่ยนแปลงเครื่องจักร, และการเปลี่ยนวัสดุ
  • กำจัดความจำเป็นในการใช้ระบบการกำหนดตารางเวลาที่ซับซ้อน
  • ประเมินความสามารถในการปฏิบัติตามกำหนดเวลาและได้รับมุมมอง 360 องศาของความสามารถในการผลิต
  • สร้างลำดับการผลิตที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสายการผลิต
2. การจัดการการดำเนินการตามกระบวนการ (Process Execution Management)
  • ติดตามเส้นทางกระบวนการและกำหนดทางเลือกที่ดีกว่า
  • ให้คำแนะนำการทำงานเพื่อช่วยเทคนิค
  • ติดตามความก้าวหน้าของแต่ละงานตั้งแต่ต้นจนจบ
  • แจ้งเตือนเมื่อพบสภาพสินทรัพย์ที่นอกเหนือข้อกำหนด
  • ให้การควบคุมศูนย์กลางของพื้นที่การผลิต
  • จัดส่งงานการผลิตโดยไม่เกิดความล่าช้า
3. การเก็บข้อมูลและการจัดหา (Data Collection and Acquisition)
  • เก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์จากกระบวนการอัตโนมัติต่าง ๆ
  • ใช้มาตรฐาน IoT เพื่อให้การเก็บข้อมูลทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ปฏิบัติงานมากนัก
  • ให้บริการสมุดบันทึกดิจิทัลศูนย์กลางเพื่อกำจัดการป้อนข้อมูลด้วยมือ
  • ดึงข้อมูลจากจุดใดก็ได้ของกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์
4. การติดตามและการจัดการสต็อก (Inventory Tracking and Management)
  • จัดการสต็อกงานระหว่างการผลิต (Work-in-Progress – WIP) ทั่วทุกขั้นตอนการผลิต
  • เชื่อมกับ ERP เพื่อตรวจสอบระดับสต็อกโดยอัตโนมัติในแต่ละขั้นตอน
  • กำจัดการตรวจสอบตำแหน่งของ WIP ด้วยมือ
5. การติดตามและการสืบค้น (Traceability and Genealogy)
  • บันทึกข้อมูลชุดการผลิตและผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ ตั้งแต่การใช้วัตถุดิบจนถึงสินค้าสำเร็จรูป
  • ให้ประวัติของแต่ละหน่วยอย่างครบถ้วนและติดตามเส้นทางของมันตลอดกระบวนการผลิต
  • รวมกับ SCADA เพื่อตั้งเตือนเมื่อหน่วยอยู่ภายนอกข้อกำหนด
6.การวิเคราะห์ประสิทธิภาพ (Performance Analysis)
  • คำนวณประสิทธิผลโดยรวมของอุปกรณ์ (Overall Equipment Effectiveness – OEE)
  • วิเคราะห์เวลาการทำงานจริง, อัตราการผลิต, และอัตราคุณภาพ
  • เปรียบเทียบการผลิตแบบเรียลไทม์กับข้อมูลในอดีตและเป้าหมายที่กำหนด
7. การจัดการคุณภาพ (Quality Management)
  • รับประกันวิธีการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกันจากชุดหนึ่งไปยังชุดถัดไป
  • อัปเดตสูตรได้ง่ายเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่หรือปรับสเปค
  • ลดขยะขณะปรับปรุงกระบวนการผ่านการจัดการสูตร
8. การจัดการการบำรุงรักษา (Maintenance Management)
  • ติดตามการบำรุงรักษาอุปกรณ์และเวลาหยุดทำงาน
  • กำหนดตารางกิจกรรมการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
  • รักษาประสิทธิภาพและความพร้อมของอุปกรณ์
9. การจัดการแรงงาน (Labor Management)
  • รักษาประวัติพนักงานเพื่อประเมินและจับคู่ทักษะ
  • บันทึกชั่วโมงการทำงานสำหรับการคำนวณค่าจ้าง
  • ติดตามการเข้าทำงานและประสิทธิภาพของพนักงาน

MES Architecture and Integration

ระบบการจัดการการผลิต (MES) ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP) ที่ระดับธุรกิจและระบบควบคุมกระบวนการที่ชั้นโรงงาน MES จะรวมเข้ากับระบบการผลิตอื่นๆ เช่น:

  1. ERP (Enterprise Resource Planning): การทำให้การดำเนินงานทางธุรกิจสอดคล้องกับกิจกรรมการผลิต
  2. Product Lifecycle Management (PLM): การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์, เส้นทางกระบวนการ และคำแนะนำในการทำงาน
  3. Warehouse Management System (WMS): การจัดการความพร้อมของวัสดุ, การเตรียมการ และการจัดส่ง
  4. Maintenance Management System: การติดตามประสิทธิภาพและการบำรุงรักษาอุปกรณ์

การรวมระบบนี้ช่วยให้การไหลของข้อมูลระหว่างแผนกต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต ระบบ MES เป็นเลเยอร์ซอฟต์แวร์ที่สำคัญ ซึ่งให้การตรวจสอบ, ควบคุม และปรับปรุงกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและคุณภาพของการผลิต

MES Products and Solutions

MES System Image I

MES System Image II

ระบบ MES ที่ครอบคลุมเชื่อมต่อโมดูลหลักเหล่านี้เพื่อให้การมองเห็น, ควบคุม, และปรับปรุงกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการดำเนินการและการวิเคราะห์

Benefits of using MES in manufacturing

การนำระบบการจัดการการผลิต (MES) มาใช้ในกระบวนการผลิตมีประโยชน์สำคัญหลายประการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ, คุณภาพ, และประสิทธิผลโดยรวม ต่อไปนี้คือข้อดีหลัก:

  1. การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: MES ให้การมองเห็นกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตติดตามการดำเนินงานและระบุปัญหาคอขวดได้ ซึ่งส่งผลให้การทำงานมีความคล่องตัวมากขึ้น ลดเวลาในการหยุดทำงาน และเพิ่มผลผลิตผ่านการทำงานอัตโนมัติในการจัดตารางเวลาและการปรับเปลี่ยนตามความต้องการ
  1. การควบคุมคุณภาพที่ดีขึ้น: ด้วยข้อมูลเรียลไทม์เกี่ยวกับเมตริกการผลิต, MES ช่วยให้สามารถระบุและแก้ไขปัญหาคุณภาพได้ทันที ความสามารถนี้ช่วยลดข้อบกพร่อง, ของเสีย, และการทำงานซ้ำ ส่งผลให้คุณภาพผลิตภัณฑ์ดีขึ้นและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
  1. การควบคุมคุณภาพที่ดีขึ้น: ด้วยข้อมูลการผลิตแบบเรียลไทม์, MES ช่วยให้สามารถระบุและแก้ไขปัญหาคุณภาพได้ทันที ความสามารถนี้ช่วยลดข้อบกพร่อง, ของเสีย, และการทำงานซ้ำ ส่งผลให้คุณภาพผลิตภัณฑ์ดีขึ้นและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
  1. การจัดการสินค้าคงคลังและการเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน: MES ช่วยให้ติดตามระดับสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดสต็อกส่วนเกินและของเสีย การจัดการการไหลของวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงการมองเห็นในห่วงโซ่อุปทาน โดยการรับรองว่าวัสดุที่ต้องการมีพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น
  1. การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย: สำหรับอุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่เข้มงวด, MES ช่วยรักษาการปฏิบัติตามข้อกำหนดโดยการรับรองเอกสารและการติดตามกระบวนการผลิตอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับภาคส่วนเช่น ยาและอาหารและเครื่องดื่ม ที่การปฏิบัติตามมาตรฐานเป็นสิ่งจำเป็น
  1. การลดเวลานำและต้นทุน: ด้วยการทำให้กระบวนการทำงานเป็นระเบียบ, MES ช่วยลดเวลานำของคำสั่งซื้อและต้นทุนแรงงานผ่านการทำงานอัตโนมัติและการจัดการทรัพยากรที่ดีขึ้น ความมีประสิทธิภาพนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและความสามารถในการแข่งขันในตลาด
  1. การดำเนินงานไร้กระดาษ: การเปลี่ยนไปใช้ระบบ MES ดิจิทัลช่วยลดการพึ่งพากระดาษ, ลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดของมนุษย์ และทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ทันทีทั่วทั้งองค์กร การเปลี่ยนแปลงนี้เพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงานและการสื่อสารระหว่างสมาชิกในทีม

การนำระบบ MES มาใช้สามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญโดยการเพิ่มประสิทธิภาพ, คุณภาพ, และความรวดเร็วในการตอบสนอง ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มผลกำไรและความพึงพอใจของลูกค้า

Related Article

ประกาศสำคัญเกี่ยวกับแอป i-Reporter
READ FULL
What’s New i-Reporter ฟีเจอร์ไหนต้องอัปเดต? ฟีเจอร์ใหม่มีอะไรบ้าง?
READ FULL
Free 30-day trial with Simcenter FLOEFD for NX
READ FULL

We use cookies to improve performance and enhance your experience on our website. You can learn more details in our Privacy Policy and manage your privacy settings by clicking Settings

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

You can choose your cookie settings by enabling/disabling cookies in each category according to your preferences, except for necessary cookies.

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า

MEET THE EXPERT

Contact our experts for more information about our solutions.